จำนวนการดูหน้าเว็บรวม

วันพุธที่ 7 กันยายน พ.ศ. 2554

มหาวิหารเซนต์วิตุส (St. Vitus Cathedral)

     มหาวิหารเซนต์วิตุส (St.Vitus Cathedral) เป็นโบสถ์ที่ใหญ่ที่สุดในสาธารณรัฐเช็ก และเป็นโบสถ์สำคัญคู่บ้านคู่เมืองมากว่าพันปี 

  มหาวิหารเซนต์วิตุส (St. Vitus Cathedral)

    มหาวิหารเซนต์วิตุส (St. Vitus Cathedral)เป็นมหาวิหารสไตล์โกธิกที่ใหญ่ที่สุดในกรุงปร๊าก พระเจ้าชาร์ลส์ที่ 4 ทรงโปรดให้สถาปนิกชาวฝรั่งเศสชื่อแมททิวแห่งอาร์ราส (Matthhew of Arras) สร้างขึ้นในปีค.ศ. 1344 มหาวิหารมีความกว้าง 60 เมตร ยาว124 เมตร หอคอยสูง 97 เมตร การก่อสร้างในช่วงแรกๆ ยังไม่สมบูรณ์ มีการก่อสร้างเพิ่มเติมเรื่อยๆ เป็นเวลาหลายร้อยปีค.ศ. จนมาเสร็จสมบูรณ์เมื่อปีค.ศ. 1929


     ภายในมหาวิหารประดับกระจกสีอันวิจิตรงดงาม เป็นรูปภาพของนักบุญและเรื่องราวเกี่ยวกับคริสต์ศาสนา ที่น่าสนใจก็คือบริเวณแท่นบูชาของเซนต์เวนเซสลาส (Chapel of St. Wenceslas) ที่ตกแต่งด้วยภาพวาดเทคนิคเฟรสโกและอัญมณีมีค่าถึง 1,345 ชิ้น

 
    ภายในจะเห็นโถงแบบโกธิก หน้าต่างประดับด้วยกระเบื้องโมเสกสวยงามยามแสงจากภายนอกส่องลอดเข้ามาภายในจะเห็นโถงแบบโกธิก 
 
โถงแบบโกธิก
   
    ห้องโถงจากประตูทางเข้าจนถึงแท่นบูชาที่ได้ประดับประดาไปด้วยงานศิลปกระจกสี ตามหน้าต่างทั้งหลาย (สร้างผลงานโดยศิลปินชาวเช็กผู้ที่เชี่ยวชาญทางด้านงานศิลปะนูโวชื่อ อัลฟอนส์ มูชา “Alfons Mucha”) ซึ่งของประดับประดาภายในได้ส่องประกายแวววาวไปทั่ว
   
ศิลปะแบบอาร์ตนูโว

   
     ห้องใต้ดินของมหาวิหารที่ใช้เป็นสุสานของพระราชวงศ์ส่วนใหญ่ทั้งกษัตริย์และ ราชินีของยุคโบฮีเมียนซึ่งเป็นที่พักผ่อนที่สุดท้ายชั่วกาลนาน(อย่างเช่นพระเจ้าชาร์ลส์ที่ 4, (Charles IV) กษัตริย์เวนเชสลาสที่ 4, (Wenceslas IV) จอร์จ แห่งโพดแบรดดี้ (George of Poděbrady) จักรพรรดิ์รูดอลฟ์ที่ 2 (Rudolf II) พระเจ้าเฟอร์ดินานด์ที่ 1และยังรวมถึงพระเจ้าแมกซิมิเลียนที่ 2อีกด้วย

วันอังคารที่ 6 กันยายน พ.ศ. 2554

ปราสาทในเทพนิยาย นอยชวานสไตน์

มื่อพูดถึงปราสาทแล้ว หลายคนอาจจะนึกถึงปราสาทของดิสนีย์เป็นอันดับหนึ่ง  แต่ปราสาทที่เป็นต้นกำเนิดของปราสาทดิสนีย์อยู่ในประเทศ เยอรมนี มีชื่อว่าปราสาทนอยชวานสไตน์ (Neuschwanstein)  นับเป็นปราสาทที่โด่งดังที่สุดในโลก  อยู่ในแคว้นบาวาเรียทางตอนใต้ของประเทศ ติดเทือกเขาแอลป์



   ปราสาทนอยชวานสไตน์ (Neuschwanstein)

    ปราสาทนอยชวานสไตน์สร้างขึ้นบนยอดเขาลูกนึง ที่รายล้อมด้วยภูมิทัศน์ที่สวยงามของเทือกเขาแอลป์และทะเลสาบด้านล่าง จุดประสงค์ของการสร้างปราสาทนี้เพื่อให้ผสานกลมกลืนไปกับธรรมชาติอันงดงาม รอบด้าน ปกติการสร้างปราสาทจะต้องมีสวนที่สวยงามเป็นบริเวณกว้าง มีการสร้างบ่อน้ำพุในสวน แต่นอยชวานสไตน์ไม่จำเป็นต้องมีสวน เพราะมีธรรมชาติอันน่าอัศจรรย์รายล้อมอยู่แล้ว   ไม่ต้องมีน้ำพุ เพราะมีน้ำตกทางธรรมชาติอยู่ใกล้ ๆ
    ปราสาทนี้สร้างขึ้นโดยพระเจ้าลุดวิกที่ 2 แห่งรัฐบาวาเรีย (มีพระชนม์ชีพระหว่าง 25 สิงหาคม พ.ศ. 2388 - 13 มิถุนายน พ.ศ. 2429) ในสมัยนั้นเยอรมันยังไม่ได้รวมกันเป็นประเทศอย่างในปัจจุบัน แคว้นเล็กๆต่างปกครองกันเอง มีกษัตริย์ของตัวเอง กษัตริย์ลุดวิกทรงขึ้นครองราชย์ตั้งแต่พระชนมายุเพียง 18 ชันษา เป็นกษัตริย์อารมณ์ศิลป์ สนใจศิลปะ ดนตรี และวรรณกรรม มากกว่าจะสนใจปกครองบ้านเมือง  ทรงนิยมสร้างปราสาท หลงไหลในตำนานพื้นบ้านเกี่ยวกับเทพของเยอรมันและพวกไวกิ้ง และชื่นชอบอุปรากรของริชาร์ด วากเนอร์ (Richard Wagner) เป็นชีวิตจิตใจ จนพวกขุนนางทนไม่ไหว ตั้งข้อหาสติวิปลาส  แล้วปลดพระองค์ลงจากตำแหน่ง หลังจากนั้นไม่กี่วันก็มีคนพบพระศพจมน้ำตายอย่างปริศนา 
  พระเจ้าลุดวิกที่ 2 แห่งรัฐบาวาเรีย
    นับตั้งแต่วันที่เริ่มสร้างจนถึงปัจจุบัน ปราสาทแห่งนี้มีอายุราว 140 ปี ผู้ที่ออกแบบปราสาทแห่งนี้ไม่ใช่สถาปนิก แต่กลับเป็นคนออกแบบฉากละคร ทำให้ปราสาทแห่งนี้เหมือนปราสาทในจินตนาการมากกว่าปราสาทแห่งอื่น ภายนอกสร้างให้ดูเหมือนปราสาทในยุคกลาง แต่ภายในเต็มไปด้วยศิลปะในยุคต่างๆ ไบแซนไทน์ โรมันเนสก์ โกธิก แถมพระองค์ยังมีหัวก้าวหน้าในการนำเทคโนโลยีสมัยใหม่ที่สุดมาใช้ในปราสาท แห่งนี้ ทั้งระบบไฟฟ้า ประปา แถมยังมีโทรศัพท์ในปราสาทอีกด้วย มีระบบทำน้ำร้อนน้ำเย็นพร้อมเสร็จ
 

ชื่อของปราสาทนอยชวานสไตน์ (Neuschwanstein) มีความหมายดังนี้
neu = new แปลว่าใหม่
schwan = swan แปลว่าหงส์
stein = stone แปลว่าหิน
ฉะนั้นนอยชวานสไตน์ จึงแปลว่า New Swan Stone Castle หรือปราสาทหินหงส์ใหม่
    ภายในตัวปราสาทจะเปิดให้เข้าชมทั้งหมด 14 ห้อง ห้องส่วนใหญ่จะประดับประดาด้วยภาพวาดเกี่ยวกับตำนานและนิทานพื้นบ้าน โดยเฉพาะเรื่องที่มาจากอุปรากรของวากเนอร์ เช่น Tannhäuser, Lohengrin, Tristan and Isolde, Parsifal
ริชาร์ด วากเนอร์ (Richard Wagner)
 
    Throne Hall หรือห้องราชบังลังก์ ดูยิ่งใหญ่อลังการ สีเหลืองทองอร่ามในศิลปะแบบไบแซนไทน์ แต่ห้องนี้ยังไม่เสร็จสมบูรณ์เพราะขาดสิ่งสำคัญที่สุดของห้อง ก็คือบัลลังก์นั่นเอง โคมระย้าที่ตั้งอยู่กลางห้องมีน้ำหนักถึง 900 กิโลกรัม สามารถชักรอกลงมาได้เพื่อทำความสะอาดหรือเปลี่ยนเทียนเล่มใหม่ 

 Throne Hall  
    ห้องบรรทมของพระเจ้าลุดวิก ได้สร้างขึ้นในศิลปะแบบโกธิก มีงานแกะสลักไม้อย่างวิจิตรบรรจง ภาพวาดในห้องนี้มาจากอุปรากรเรื่อง Tristan and Isolde ของวากเนอร์ ข้างๆพระเก้าอี้สีน้ำเงินเป็นโต๊ะสำหรับล้างพระพักตร์ ใช้เทคโนโลยีน้ำประปายุคปัจจุบันให้น้ำไหลผ่านคอหงส์เงิน 
Bedroom
    ห้องชั้นบนสุดของปราสาท เรียกว่า Singers Hall เป็นห้องที่ใช้สำหรับจัดแสดงอุปรากรของวากเนอร์โดยเฉพาะ มีการออกแบบระบบอคูสติกของห้องเป็นอย่างดี และแน่นอน ภาพวาดที่ประดับห้องนี้มาจากอุปรากรเรื่อง Parsifal ของวากเนอร์ กษัตริย์ลุดวิกไม่มีโอกาสได้ทอดพระเนตรการแสดงในห้องนี้ขณะที่ยังทรงพระชนม์ชีพอยู่ 

    ปราสาทนอยชวานสไตน์เป็นจุดท่องเที่ยวสำคัญอันดับหนึ่งของเยอรมนี  และทำรายได้ให้ประเทศเป็นเงินมหาศาล